เมื่อเวลา 23.36 น. วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2568 ศูนย์วิทยุเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ. ห้วยใหญ่ รับแจ้งเหตุ ขอความช่วยเหลือ ช่วยหญิงสาว ถูกทำร้ายร่างกาย ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิด ภายในซอยเปลี่ยวริมถนนหลวงแผ่นดินหมายเลข 331 ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงประสานกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสภ.ห้วยใหญ่ รีบเดินทางไปตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุ เป็นซอยเปลี่ยวค่อนข้างมืด พบหญิงสาวหน้าตาดีอายุ 23 ปี อยู่ในอาการหวาดผวา เนื้อตัวสั่นเทา มีคราบเลือด ติดที่ใบหน้าลำคอ และตามเสื้อผ้า เนื้อตัวมอมแมม ไม่มีชิ้นดี โดยมีชาวบ้านให้ข้อมูลว่า เหยื่อสาวรายนี้ ถูกมาเฟียจีนทำร้ายร่างกาย แต่อาศัยจังหวะเผลอวิ่งหนีตายเอาตัวรอด มาขอความช่วยเหลือ ตนเองจึงรีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบ ส่วนผู้ก่อเหตุไม่ได้หลบหนีไปไหน เนื่องจากทำกุญแจรถหล่นหาย ในขณะที่ลูกสมุนสองคน เร่งเครื่องรถยนต์กระบะอีกคันหลบหนีไป
สอบถาม น.ส.ตุ๊กตา (นามสมมติ) อายุ 23 ปี ทราบว่าตนเองนั้นเลิกลากับหนุ่มจีนรายนี้มาประมาณเจ็ดวัน ก่อนเกิดเหตุหนุ่มจีนโทรมาอ้อนวอนขอเจอเป็นครั้งสุดท้ายแล้วจะไม่ตามราวีอีก ตนเองหลงเชื่อจึงให้ไปรับแล้วนั่งรถออกมาด้วยกัน โดยมีลูกสมุนเป็นคนจีนหนึ่งคน พม่าหนึ่งคน ขับรถยนต์กระบะอีกคันติดตามไป ตนเองผิดสังเกตเนื่องจากระยะทางที่หนุ่มจีนพามานั้นค่อนข้างไกล จึงมีปากเสียงกันระหว่างทาง
ก่อนจะมาหยุดรถในซอยเปลี่ยว หนุ่มจีนจึงลงมือทำร้ายตบตี ใช้ท่อนเหล็กฟาดเข้าที่ใบหน้า จับศีรษะโขกกับต้นไม้ มิหนำซ้ำยังข่มขู่ โดยการใช้อุปกรณ์ช่างลักษณะคล้ายกรรไกรพยายามจะตัดนิ้วเท้า ด้วยความกลัว ตนเองจึงพยายาม กรีดร้องขอความช่วยเหลือ แต่ลูกสมุนของหนุ่มจีนไม่ได้สนใจใยดี ยืนคุมเชิงดูต้นทาง ให้ลูกพี่ทำร้ายตนเองอย่างไร้ความปราณี ตนเองพยายามร้องขอชีวิต ก่อนจะอาศัยจังหวะที่หนุ่มจีนเผลอ วิ่งหนีตายไปขอความช่วยเหลือ จากชาวบ้านให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าว
ภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ก่อเหตุเป็นหนุ่มจีนอายุประมาณ 25 ถึง 35 ปี มาที่สถานีตำรวจสภ.ห้วยใหญ่ ผ่านไปประมาณ 1 ชั่วโมง ได้นำรถหลวงส่งหญิงสาวกลับที่พัก แต่เป็นที่หน้าแปลกประหลาดใจกว่านั้นคือ ได้ปล่อยชาวจีนผู้ก่อเหตุโหดเหี้ยมกับผู้หญิง ออกด้านหลังโรงพัก โดยไม่ได้ดำเนินคดีแต่อย่างใด สร้างความงุนงงสงสัย เป็นอย่างมาก
เมื่อผู้สื่อข่าวได้สอบถาม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เปิดเผยเพียงว่าให้ชดใช้ค่าเสียหายกันไป แต่ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดใดๆ โดยอ้างว่าเป็นความลับ ไม่ใช่เรื่องที่นักข่าวจะต้องรู้ ส่วนชาวจีนที่มีพฤติกรรมราวกับมาเฟีย ถูกปล่อยตัว ลอยหน้าลอยตา กลับไปอย่างง่ายดาย
ขณะเดียวกันเพื่อนของชาวจีน ได้เปิดเผยว่า คู่กรณีทั้งสองคนคบกันมาประมาณหนึ่งปีกว่า มักจะมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกันบ่อยครั้ง เดี๋ยวดีเดี๋ยวเลิก แต่ก็ไม่รู้ว่าครั้งนี้ทำไมฝ่ายชายถึงลงมือรุนแรงเช่นนี้ ส่วนในเรื่องของการดำเนินคดีนั้นไม่ได้ดำเนินคดีแต่อย่างใด โดยได้จ่ายค่าเสียหายให้ฝ่ายหญิงไปประมาณ 4-5 หมื่นบาท ส่วนทางเจ้าหน้าที่นั้นอยู่ระหว่างการเจรจา ก่อนจะพากันขึ้นรถกลับไปราวกับว่าไม่มีเรื่องนี้เกิดขึ้นเลย จึงเกรงว่าเรื่องที่เกิดขึ้นจะเงียบหายไปเฉกเช่นเดียวกับเหตุการณ์ชาวจีนบังค้บ เด็กเอนฯ เสพยาจนช็อคตายด้วย