จากกรณีปรากฏคลิปวีดีโอ ระหว่างคนไทยและนักท่องเที่ยว ชาวต่างประเทศ ทะเลาะวิวาท ชกต่อยกันอย่างชุลมุน เผยแพร่ไปบนสังคมออนไลน์โซเชียลเน็ตเวิร์ค จนเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหนัก จนสร้างคสามเสียหายให้กับภาพลักษณ์เมืองท่องเที่ยว
ล่าสุด เมื่อเวลา 17.26 น.วันที่ 15 เมษายน 2568 พ.ต.ท.อรุษ สภานนท์ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองพัทยา พ.ต.ท.สุรเดช อิ่มใจ สว.สส.สภ.เมืองพัทยา นายนัธทวัฒน์ โสภณเศวตศิลป์ ปลัดอำเภอบางละมุง นายธฤต จันทร์จรูญ ปลัดอำเภอบางละมุง ได้เชิญตัวการ์ด 2 คน ผู้จัดการ รวมไปถึงพนักงานหญิงที่ถูกลวนลามมาสอบปากคำที่ห้องสืบ สภ.เมืองพัทยา ทราบชื่อภายหลังคือ นนท์ อายุ 36 ปี การ์ด นิก อายุ 37 ปี การ์ด แพร่ อายุ 37 ปี ผู้จัดการ เมย์ อายุ 33 ปี พนักงานเสิรฟ์ พร้อมนำคลิปวงจรปิดมาแสดงเป็นหลักฐาน
โดยการ์ดทั้งสองราย ยอมรับว่า เป็นบุคคลที่ปรากฏในคลิปวิดีโอจริง พร้อมชี้แจ้งว่าสาเหตุเกิดจากนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศสองราย มีอาการมึนเมาอย่างหนัก เข้ามาที่ร้านแล้วเล่นรุนแรงกับพนักงานหญิง ทั้งยังลวนลามด้วยท่าทางที่ไม่เหมาะสม ทางการ์ดได้พยายามไล่ออกไปจากร้าน ทั้งทางผู้จัดการยังออกไปพูดคุยให้สงบสติอารมณ์ แต่ชาวต่างประเทศกลับไม่ยอมฟัง ยังไปหาเรื่องนักท่องเที่ยวคนอื่น เมื่อการ์ดห้ามปรามกลับยั่วยุ แล้วใช้เบียร์ราดใส่ศีรษะ ทุกคนพยายามอดทน
กระทั่งทั้งคู่ยังคงไปก่อกวนนักท่องเที่ยวที่เล่นน้ำกันตลอดทาง ก่อนจะท้าต่อยมวยไทย ทำให้ทนแรงยั่วยุไม่ไหว จึงเข้าไปต่อยเข้าที่ใบหน้าจนนักท่องเที่ยวเซล้มไป ก่อนจะมีทั้งนักท่องเที่ยวทั้งชาวต่างชาติ และคนไทยเข้ามาชุลมุน กระทั่งมาปรากฏเป็นคลิปความรุนแรงดังกล่าว ซึ่งตนเองต้องขอแสดงความเสียใจ และขอโทษต่อสังคม ที่ขาดความยับยั้งชั่งใจ จนทำให้เสียภาพลักษณ์เช่นนี้ แต่ก็ขอความเห็นใจให้มองถึงพฤติกรรมที่นักท่องเที่ยวกระทำด้วย
ด้าน น.ส.เมย์ ให้ข้อมูลว่า ตนเองถูกชาวต่างชาติเข้ามาจับอุ้ม ทั้งทั้งที่ไม่ได้เข้ามาใช้บริการของทางร้าน จนหัวกระแทกกับแอร์ ส่วนพนักงานอีกคนซึ่งมาทำงานใหม่ก็โดนลวนลามเช่นกัน จนตอนนี้ไม่กล้ามาทำงาน เพราะรับพฤติกรรม การกระทำผิดของชาวต่างชาติไม่ได้
อย่างไรก็ตาม พ.ต.ท.อรุษ สภานนท์ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองพัทยา ได้รวบรวมหลักฐานเพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ซึ่งตอนนี้ชาวต่างชาติยังไม่ได้มาแจ้งความร้องทุกข์แต่อย่างใด ส่วนทางด้านฝ่ายปกครองอำเภอบางละมุง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองพัทยา ลงพื้นที่ตรวจสอบร้านที่เกิดเหตุในทันที ซึ่งพบว่าทางร้านแสดงความรับผิดชอบ ปิดให้บริการเป็นการชั่วคราว แทนคำขอโทษทั้งกับเจ้าหน้าที่ สังคม รวมไปถึงตัวนักท่องเที่ยวด้วย
